การบริการ

แนวทางการปฎิบัติเมื่อเจอเจ้าของโครงการครั้งแรก
ต้องเริ่มต้นอย่างไร ?
  • จะต้องรู้ข้อมูลก่อนว่าคนที่เราจะไปพบคือใคร อายุเท่าไหร่ บริษัทอะไร งานที่เคยทำมีอะไรบ้าง และงานที่มีมีอะไรบ้าง
เวลาเข้าพบหรือเริ่มบทสนทนา
  • เขาเป็นมาอย่างไร ผลงานมีอะไร เคยมีปัญหาอะไรก่อนหน้า  เพื่อทราบเบื้องหลัง พื้นฐานเขาก่อน หรือเริ่มจากตัวเรา เราเป็นใคร บริษัทเรามีอะไร กำลังผลิตเป็นอย่างไร ขายอย่างไรเป็นต้น คีย์เริ่มต้น คือ เข้าใจพื้นฐานของกันและกันก่อน แบบไม่ได้ไปขายกระเบื้อง เสนอโปรโดยตรง เป็นการเข้าใจกัน การจูนกัน เพื่อหาทางตอบสนองความต้องการของลูกค้า

พูดยังไงให้เขาชอบเรา

  • เป็นตัวของตัวเองในรูปแบบที่มารยาทดีจะดีที่สุด
  • ส่วนการพูดให้เขาชอบ คุณจะนึกออกว่าเขาชอบอะไรไม่ชอบอะไรจากการเริ่มต้นบทสนทนาที่ได้กล่าวไปข้างต้น ถ้าเราหาสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้นที่เราสามารถทำได้ เขาจะชอบเราเอง หรือถ้าเรารู้พื้นฐานเขา เราจะรู้เองว่าเขาชอบฟังอะไร ชอบฟังคำแนะนำ ฟังวิธีการแก้ปัญหา หรือฟังข้อมูลเชิงตลาด สำคัญคือยิ่งถ้าคุณมีความรู้มากเท่าไหร่ เขาจะยิ่งเชื่อถือและมั่นใจคุณมากเท่านั้น
  • ทำการบ้านส่วนไหนเป็นพิเศษ คิดในมุมมองการตลาดจะแบ่งไปด้วย 4 P คือ Product, Place, Price, People เช่น Product หรือสินค้า ต้องรู้ลึกถึงการผลิต คุณสมบัติ การใช้งานที่ถูกต้องชัดเจนคุณจะพูดได้คล่อง โดยเฉพาะคุยกับสถาปนิกหรือวิศวกร หรือ Price ต้องเข้าใจถึงระบบราคา ราคาตลาดเป็นอย่างไร ราคาเราประมาณไหน มีอะไรที่คุ้มค่าในราคาของเรามากกว่าคนอื่น โดยเฉพาะถ้าคุยกับจัดซื้อ หรือผู้รับเหมา
การบริการเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า service mind

การบริการเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้า

Service Mind ไม่ใช่กฎระเบียบของบริษัทโดยตรง แต่เป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการที่ดี ซึ่งต้องทำด้วยความตั้งใจจริง ไม่ใช่เพราะการบังคับ ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดี สร้างความประทับใจให้ลูกค้า และนำไปสู่การบอกต่อหรือกลับมาใช้บริการอีกครั้ง จนกลายเป็นลูกค้าประจำ ที่สำคัญยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเราและองค์กรอีกด้วย

Service Mind เป็นสิ่งที่ทุกคนในทุกตำแหน่งสามารถพัฒนาได้ เริ่มจากการแสดงออกถึงความจริงใจ เช่น การไหว้ กล่าวคำสวัสดีด้วยน้ำเสียงสุภาพ อ่อนน้อม พร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร

การบริการที่น่าประทับใจในระยะยาวเราควรมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าจดจำและอยากกลับมาใช้บริการอีก วิธีการมีดังนี้

1. ผู้จัดการ (Manager)

  • แสดงความน่าเชื่อถือและซื่อสัตย์ เช่น ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน และรักษาคำมั่นสัญญา
  • แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมแสดงความรับผิดชอบหากมีข้อผิดพลาด
  • รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า และนำไปปรับปรุงบริการเพื่อให้ดีขึ้น
2. แอดมิน (Admin)
  • ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษตั้งแต่เริ่ม เช่น การไหว้ การกล่าวสวัสดี การให้คำแนะนำที่ชัดเจน
  • สื่อสารอย่างต่อเนื่อง เช่น การแจ้งโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษที่เหมาะสม
  • ส่งข้อความหรืออีเมลขอบคุณหลังการใช้บริการ พร้อมสอบถามความคิดเห็น
3. พนักงานขาย (Sales Staff)
  • เริ่มต้นด้วยการไหว้ กล่าวคำสวัสดี และแนะนำสินค้าได้อย่างมั่นใจ
  • ช่วยลูกค้าสมัครสมาชิกและแนะนำสิทธิพิเศษต่าง ๆ
  • ใส่ใจในรายละเอียด เช่น ในกรณีที่ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้งพยายามเรียกชื่อลูกค้าเพื่อให้รู้สึกเป็นคนสำคัญ
  • มีความอดทนในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ในกรณีที่ลูกค้ารอการเปิดบิลนาน ให้บริการเครื่องดื่มให้ลูกค้าขณะรอ และติดตามผลหลังการขาย
  • สอบถามความพึงพอใจของลูกค้า พร้อมทั้งเสนอความช่วยเหลือเพิ่มเติมหากมีข้อสงสัยหรือปัญหา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษอีกครั้ง

4. พนักงานคลังสินค้า (Warehouse Staff)

  • ทักทายลูกค้าด้วยคำว่าสวัสดี
    - กล่าวสวัสดีทุกครั้งที่พบลูกค้า พร้อมให้บริการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และใส่ใจ
    - ใช้คำพูดที่สุภาพ อ่อนน้อม เพื่อสร้างความประทับใจและความเป็นมิตร
  • ตรวจสอบความถูกต้องของบริการ
    - ทวนรายการให้ลูกค้าทุกครั้งก่อนส่งมอบสินค้า/บริการ
    - กล่าวคำขอบคุณพร้อมยกมือไหว้ และส่งรอยยิ้มเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี
  • จัดการในกรณีลูกค้าต้องรอคิวนาน
    - แจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างสุภาพ เช่น"คุณลูกค้ารอสักครู่นะครับ ตอนนี้มีลูกค้าหลายท่าน อาจทำให้ต้องรอนานเล็กน้อย แต่เราจะรีบบริการให้เร็วที่สุดครับ"
    - พร้อมกับส่งรอยยิ้มเพื่อแสดงถึงความใส่ใจและความเป็นมืออาชีพ
  • ปฏิบัติหลังให้บริการสำเร็จ
    - เมื่อขึ้นกระเบื้อง ตรวจนับและกล่าวขอบคุณลูกค้าแล้ว ให้ช่วยโบกรถเพื่ออำนวยความสะดวก
    - เมื่อรถกำลังจะขับออก โค้งคำนับอย่างสวยงาม และหันมายกมือไหว้ขอบคุณรถที่หยุดให้

สร้างความรู้สึกปลอดภัยและใส่ใจ ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราให้ความสำคัญ การดูแลในลักษณะนี้จะสร้างความประทับใจ และทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความใส่ใจอย่างแท้จริง

วิธีต้อนรับลูกค้าชาวต่างชาติที่สุภาพ
ให้เริ่มต้นด้วยการสวัสดี 
  • ตอนเช้า = Good morning (กู๊ด มอร์นิ่ง) 
  • ตอนบ่าย = Good afternoon (กู๊ด อาฟเตอร์นูน)

ประโยคถัดมาที่ควรพูด คือการเสนอความช่วยเหลือ

  • ให้ผมช่วยอะไรได้ไหมครับ = How can I help you today, sir/maam?
    ( ฮาว แคน ไอ เฮ้ลพ ยู ทูเดย์, เซอร์ (ผช )แมม (ผู้หญิง) )
    แปลว่า = สวัสดีตอนเช้าครับ ให้ผมช่วยอะไรได้ไหมครับท่าน

ลูกค้าจะตอบ จะประมาณว่า  I'm looking for
อ่านว่า = ไอม ลุคกิ้ง ฟอร์      แปลว่า = ฉันกำลังหา

ซึ่งคำในช่องที่เขากำลังหาอยู่อาจจะเกี่ยวกับพื้นที่ต่างๆ เช่น
  • Kitchen = คิทเช่น = ห้องครัว
  • Toilet = ทอยเลท = ห้องส้วม (ไม่มีอาบน้ำ)
  • Bathroom = บ๊าทรูม = ห้องน้ำ (มีอาบน้ำ)
  • Living room = ลีฟวิ่งรูม = ห้องรับแขก
สินค้าที่ลูกค้าอาจพูดถึง เช่น ชนิด, ผิวหน้า, ลวดลาย, หรือโทนสี ซึ่งเราควรเข้าใจศัพท์เหล่านี้ เพื่อที่จะสามารถแนะนำลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และควรตอบลูกค้าอย่างง่ายๆ เช่น
  • Ok, this way please
    อ่านว่า = โอเค ดิส เวย์ พลีส
    แปลว่า = เชิญทางนี้ครับ
จากนั้นให้ลูกค้าลองเลือกดูว่าชอบหรือไม่ ถ้าหากลูกค้าไม่ได้ตอบอะไร เราควรแนะนำสินค้าโดยเรียงลำดับให้เข้าใจง่าย ดังนี้
  • ชนิดสินค้า เช่น พอร์ซเลน เซรามิค อุปกรณ์
  • ผิวหน้า เช่น กันลื่น หยาบ ซาติน เงา
  • ลวดลาย เช่น เรียบ หิน ไม้
  • โทนสี เช่น อุ่น เย็น
  • บริการส่งฟรี
การแนะนำตามลำดับนี้จะทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy