การจัดส่ง

ทำไหมต้อง PUSH 1 คัน 1 โรงงาน และ สั่งของพ่วงสาขาในจังหวัดทางเดียวกัน
  • จุดประสงค์

        - เพื่อช่วยให้การจัดรถของปสข.รวดเร็วขึ้น
        - เพื่อลดระยะเวลาการจัดส่งสินค้าให้ได้ ตามที่เรากำหนดไม่เกิน 3-4วัน
        - ช่วยให้สาขาคลังขนาดเล็ก มีสินค้าขายดีหมุนเวียนได้ทันความต้องการของลูกค้า
        - ช่วยให้การนัดวันจะส่งลูกค้าตรงตามวันนัดหมาย

  • โรงงานของเราตั้งอยู่คนละที่กัน
            ทำให้ใช้ระยะเวลาของรถโรงงานไปขึ้นสินค้าใส่รถล่าช้า และรถต้องวิ่งไปขึ้นของ อีกโรงงานหนึ่งทำให้เสียเวลาและของก็จะถึงสาขาช้านั่นเอง ดังนั่นเราจึงเน้น ให้สาขาช่วยกันสั่งเติมให้เต็ม 1 คัน 1โรงงาน เมื่อมีรายการ PUSH ครบสินค้าเต็มคันรถสามารถวิ่งออกจากโรงงานไปถึงสาขาได้เลยทำให้ลดระยะเวลาได้เร็วขึ้น
  • การสั่งของพ่วงในจังหวัดทางเดียวกัน

        ตอนนี้เรามีไลน์กลุ่มจังหวัดแล้ว อยากให้สาขาใช้กลุ่มนี้ประสานงานกันในการทำงานทุกเรื่อง การสั่งของ เติมสต็อกปกติเราจะเน้นย้ำสาขาให้สั่ง PUSH เน้นวันจันทร์และวันศุกร์ และเพิ่มเติมรอบพิเศษ


 ตัวอย่างเรื่องการสั่งของ PUSH จังหวัดปราจีนบุรี (มีสาขาปราจีนบุรีและสาขากบินร์บุรี) แอดมินปราจีนแจ้งเข้าห้องไลน์ มีออเดอร์เป็นโรงงาน T-TOP 6 พาเลทให้เพื่อนทราบ สาขากบินทร์ก็จะสั่งของเหมือนกันจึงหาออเดอร์โรงงาน T-TOP ได้ 6 พาเลท เต็มคันสิบล้อ 1 คัน 1 โรงงาน สาขาระบุหมายเหตุ เติมคลังพ่วงสาขาปราจีนบุรี เพื่อให้ประสานงานขายรับทราบ

 

 

ขั้นตอนการส่งคืนไม้พาเลท

1. ถ่ายรูปไม้พาเลทบนรถที่จะส่งคืน
2. ถ่ายรูปรถและทะเบียนรถที่จะส่งคืน
3. ปรับจ่ายไม้พาเลท หัวข้อ ผ.ปรับจ่ายไม้พาเลทคืนโรงงาน หมายเหตุ.ระบุส่งคืนทะเบียน...FB..FA...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


ความปลอดภัย

วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
1. โทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามเรื่องที่เกิด

2. รายงานเหตุการณ์ และความเสียหายให้ ผจก.ภาค/กลุ่ม ทันที

3. ติดต่อพนักงานคนที่สามารถเข้าไปดูเหตุการณ์ในสาขาได้เร็วที่สุด พร้อมรายงานความเสียหายเบื้องต้น

เครื่องมือช่วยขาย

วิธีเช็คสถานะ sims

ข้อมูลบริษัท / สินค้าที่ต้องรู้

ทำไมต้องเปลี่ยนลวดลายบ่อย
ทำไมต้องเปลี่ยนลวดลายบ่อย?

  ทุกๆ อาทิตย์ เราจะทำแผนผลิตเพื่อเติมสต็อคสินค้าที่ขายได้ จะเติมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณที่ขายออก และเมื่อปริมาณที่ขายออกลดน้อยลง ขายช้า สินค้าที่คงค้างอยู่จะเปลืองพื้นที่ เพราะพื้นที่เรามีจำกัด จึงจำเป็นต้องยกเลิกการผลิต และเพิ่มลวดลายใหม่ที่ตรงกับความต้องการของตลาดเข้าแทนที่ การออกสินค้าลวดลายใหม่เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้กับยอดขาย ย่อมดีกว่าทนถือสินค้าที่ขายไม่ออกแน่นอน
ทำไมต้องมีทุกลวดลาย ในขณะที่สาขาไม่สามารถเก็บสต็อคได้
ทำไมต้องมีทุกลวดลาย ในขณะที่สาขาไม่สามารถเก็บสต็อคได้ทุกลวดลาย?

    อย่างแรกคือโรงงานของเราเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตสูง เมื่อผลิตสินค้าแต่ละลวดลายเราต้องการปริมาณที่มากพอ ให้คุ้มค่ากับการผลิต การเก็บสินค้า และการจัดการสินค้า ยิ่งผลิตมาก เรายิ่งมีความชำนาญ และสามารถลดต้นทุนในการเตรียมวัตถุดิบ ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ เพราะการผลิตที่ต้นทุนต่ำเป็นจุดแข็งของบริษัท เพราะฉะนั้น ลวดลายที่เราออกไปต้องมีพื้นที่ในการแสดงให้ลูกค้าทุกสาขา เพื่อให้เกิดโอกาสในการขายสูงสุด
รู้หรือไม่ ? ️ กระเบื้องเป็นวัสดุปูพื้นและบุผนังที่ทำมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ

กระเบื้องเป็นวัสดุปูพื้นและบุผนัง ที่ทำมาจากส่วนผสมของ Natural Raw Materials หรือ วัตถุดิบจากธรรมชาติ จึงไม่มีการระเหิดหรือระเหยของสารเคมีใดๆ ปลอดภัยกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆของคุณที่อยู่ใกล้พื้นมากที่สุด

กระเบื้องเคลือบ (Glazed Ceramic และ Glazed Porcelain) ยังมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่ง ทนต่อรอยขูดขีด ผิวหน้า ไม่ถูกขัดเรียบเปิดผิวหน้าออก จึงทำให้ไม่ดูดซึมน้ำ หมึกหก กาแฟหกไม่ทิ้งคราบ ทำความสะอาดง่าย เพราะเราเคลือบด้วยแร่หินจากธรรมชาติที่เผาด้วยอุณหภูมิสูงถึง 1,200 องศาเซลเซียส หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับกระเบื้อง เพื่อให้ได้ความแข็งแกร่ง ไม่ดูดซึมน้ำสูงสุด

ด้วยแร่ธาตุต่างๆที่ผสมอยู่ในกระเบื้องทุกแผ่นมีความหนาแน่นสูง มีโมเลกุลของแร่หินจำนวนมากที่มี อิออน (ion) ซึ่งสามารถจับขั้วไฟฟ้าของฝุ่นขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศให้ตกลงมาได้ หรือที่เราเรียกกันว่า กระเบื้องช่วยฟอกอากาศนั่นเอง

ไดนาสตี้ และ RCI Porcelain เรายังไม่หยุดแค่นั้น เราใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน ทั้ง 3 โรงงาน สำนักงานใหญ่ และ สาขา ได้ติดตั้ง Solar Panel ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้รวมกว่า 6 เมกกะวัตต์

และที่พิเศษสำหรับกระเบื้องลายใหม่นี้ เราใช้สูตรผสมที่สามารถนำของเสีย ของเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ได้กว่า 60% ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เพื่อเป็นส่วนหนึงของสังคม และเป็นแบบอย่างที่ดี เราขายราคาเท่าเดิม

เมื่อมีกิจกรรมการตลาดควรเตรียมตัวอย่างไร ?

เมื่อไหร่ที่เราทำกิจกรรม ควรจะประเมินงานเพื่อปรับปรุงแบ่งเป็นตามหัวข้อดังนี้

1. กำลังพล เป็นเรื่องแรกที่เราจะต้องรู้เมื่อมีการทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุก มองได้ 2 มุม

  • มีกำลังพลพร้อม ให้ดูที่ประสิทธิภาพในการทำงาน คอยแนะนำเพิ่มเติม
  • กำลังพลไม่พร้อม ต้องเร่งรับสมัครพนักงาน หรือ ฝึกพนักงานในตำแหน่งอื่นให้เข้าหน้างาน หรือ หาช่องทางการติดต่อทางอื่น หรือ สาขาในจังหวัดเดียวกันก็สามารถเข้าพื้นที่ได้โดยไม่มีการเกรงใจกันซึ่งในกรณีนี้ ควรแบ่งหน้าที่ให้ supervisorช่วยดูแล
2. สินค้าที่น่าจะขายได้ พนักงานยังคงติดการขายสินค้าโปรโมชั่น หรือสินค้าราคา Clearance zone ราคาถูก โดยไม่มีการแนะนำสินค้าพอร์ซเลนให้ลูกค้าก่อน และไม่มีการแนะนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการปูกระเบื้องให้ครบถ้วน

3. เครื่องมือช่วยในการขาย เช่น แฟ้มน้ำเงิน รูปภาพตัวอย่าง กระเบื้องตัวอย่าง ชาร์ตสถาปนิก หรือไม่รู้วิธีนำเสนอให้ชัดเจน
องค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง
คลัง
  •  หาช่องทางระบายสินค้าใน CZ เช่น ผรม, ร้านทำเฟอร์นิเจอร์ คิดนอกกรอบว่ากระเบื้องเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง มีลิสท์ มีจำนวน มีรูปภาพ อัพเดทบ่อยๆ
  •  ใช้พื้นที่ให้เต็มประสิทธิภาพ พยายามเติม CZ ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา โดยใช้สินค้าไม่เคลื่อนไหว เศษ ในคลังปกติ ขออนุมัติปรับสต็อค
  •  เติมสินค้าให้เต็มตลอดเวลา อย่าลืมดูสัดส่วนขนาด สัดส่วนกลุ่มลวดลาย คลังที่ดีจะเห็นว่า 1 ช่องจะวางมากกว่า 1 พาเลท วางซ้อนเมื่อไหร่ วางตั้งจะแตกน้อย
คน
  • แบ่งงานให้ถูกหน้าที่ การช่วยกันที่ถูกต้องไม่ใช่การรุมทำงานใดงานหนึ่ง แต่เป็นการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
  • ในแต่ละงาน จะมีจุดที่สร้างยอดขายได้ทุกคน คิดนอกกรอบ
  •  ยุติธรรม คุยกันตรงๆด้วยคำพูดที่ดี ไม่ใช้อารมณ์ ทะเลาะกันเมื่อไหร่ งานหมดสนุก มีปัญหาคาใจ แมนๆ คุยกัน
ขาย
  • สร้างสรรค์ การประชาสัมพันธ์ คิดถีงการมองเห็น ไม่ใช่เพียงแต่หน้าเฟสตัวเอง
  • สร้างสรรค์ การขาย คิดนอกกรอบ

การทำความสะอาด

พาเลทปลวกกิน หมดสภาพทำอย่างไร

พาเลทปลวกกิน หมดสภาพสามารถตัดสต๊อกทิ้งได้เลย

ภาพตัวอย่างพาเลทชำรุด เสื่อมสภาพ


ส่งกลับมา เรามีค่าใช้จ่ายขนกลับเอาไปทำลาย หรือบริจาคได้ ห้ามเผา เราห้ามเผา ห้ามสร้างฝุ่น pm 2.5 ห่วงสังคมด้วย หาที่ทิ้ง ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น  ตัวอย่างสาขาชะอำ ในชะอำเค้าจะเอาไปทำคอกแพะ กะหังใส่หญ้าวัว คอกวัวแบบซ่อมปะส่วนชำรุดของคอกได้มีประโยชน์ กับผู้ที่ไม่มีงบและชอบซ่อม ประดิษฐ์

การจัดวางในสาขา (สินค้า/สิ่งของ)

ความสำคัญของคลังสินค้า

เรื่องคลังสินค้า จะอยู่ในองค์ประกอบ 3 อย่าง สาขาอยู่ได้ด้วยตัวเอง เรื่องพื้นที่คลังสินค้า เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเป็นอันดับต้นๆ ของสาขาที่มีพนักงานใหม่ๆ เนื่องจาก คลังคือหัวใจของการขาย ดังนั้นจะลำดับการทำงานได้ดังนี้

- การเติมสินค้า
- การจัดเรียงสินค้า
- การบริหารสต๊อกและระบบความสัมพันธ์ในการขายหน้าร้านและคลัง
- การติดตามงาน

  • การเติมสินค้า
ซึ่งการเติมสินค้ามีความสำคัญอย่างมากและมีผลต่อการขาย ถ้าเราเติมสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า จะสามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดีโดยอัตโนมัติ ตอนนี้เรามีโปรแกรม push ที่ใช้ช่วยในการเติมสินค้า โปรแกรม push มีประโยชน์อย่างไรเรามาดูกัน

1. ช่วยทำให้การสั่งเติมสินค้าของเราง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ทำให้การเติมสินค้าขายดีแม่นยำขึ้นและตรงกับความต้องการของลูกค้าของสาขา
3. ลดเวลาในการทำงานให้กับสาขาและทีมหลังบ้าน(ประสานงานขาย)สาขาจะได้มีเวลาไปทำงานอื่นได้มากขึ้น
ทั้งนี้การเติมสินค้าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ใช่แค่ใช้โปรแกรม push อย่างเดียวเราควรจะต้องเดินคลังประกอบด้วย ทำไมต้องเดินคลังช่วย

**หมายเหตุ** การเดินคลังช่วยในการเติมสินค้า เนื่องจากในระบบ push จะให้เราเติมสินค้าที่มีการขาย ถ้าสาขาเติมสินค้าตาม push อย่างเดียวต่อเนื่องโดยไม่สนลายที่ขายได้เพียงครั้งเดียว(เฉพาะคลังที่มีขนาดใหญ่จำเป็น)สต๊อกของก็สาขาจะเต็มตลอด แต่ถ้าคิดว่านานๆขายได้แล้วสาขาไม่ได้เติม สินค้าตัวนั้นๆในระบบ push จะหายไปเองและจะทำให้ไม่มีการสั่งสินค้าตัวนั้นๆเข้ามา ดังนั้นจะทำให้เกิดสต๊อกลดลงไม่เพียงพอต่อการขาย ซึ่งมีผลทำให้เสียโอกาสในการขายในที่สุด มิฉะนั้นสาขาควรจะพยายามทำความเข้าใจและใส่ใจเกี่ยวกับการเติมสินค้าให้มากๆ
  • การจัดเรียงสินค้า 
ทำไม? การจัดเรียงสินค้าให้เป็นไปตามขนาด กลุ่มลวดลายและแยกประเภทของสินค้า เช่น โซนสินค้าปกติ สินค้ากรีนโซน สินค้า M&M ให้อยู่ในพื้นที่เป็นสัดสวนและรวมถึงการปรับหน้ากองให้เรียบร้อยอยู่ตลอดเวลาเพื่ออะไรมาดูกัน

1. การจัดเรียงสินค้าให้เป็นไปตามขนาด ตามกลุ่มลวดลาย เพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน เช่น จะหยิบสินค้าให้ลูกค้า รู้ขนาดและลวดลายในบิลมาแล้ว พนักงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ ก็สามารถรู้ได้ว่า สินค้าขนาด 60x60 อยู่ตรงไหน ลายไม้ ลายหิน อยู่ตรงไหน ไม่ต้องไปเดินหาให้เสียเวลา
2. การแยกโซนสินค้า เช่นสินค้ากรีนโซน สินค้า M&M เพื่อให้ทีมขายสะดวกในการพาลูกค้าที่มีความสนใจสินค้าราคาประหยัด ไปเดินเลือกได้ง่าย ไม่ต้องไปเดินหาหลายๆที่ให้เสียเวลา ช่วยทำให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น
3. การปรับหน้ากองให้เรียบร้อยอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทำให้เราหยิบจับสินค้าได้ง่ายขึ้น มีความเรียบร้อยง่ายต่อการตรวจเช็คสต๊อกป้องกันการผิดพลาดในการนับสต็อก ซึ่งไปสู่ปัญหาสต๊อกดิฟ ที่สำคัญยังป้องกันยกสินค้าผิดเฉดและป้องการสินค้าแตกเสียหายได้อีกด้วย
ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญในการจัดเรียงสินค้ามาเป็นอันดับต้นๆของเรื่องคลังเช่นกัน
  • การบริหารสต๊อกและระบบความสัมพันธ์ในการขายหน้าร้านและคลัง
ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากอีกข้อ เพราะถ้าเราหละหลวมในการบริหารสต๊อก จะมีผลกระทบกับสาขาในหลายๆอย่าง เช่น ทำให้เกิดสต๊อกดิฟ และที่มาของสต๊อกดิฟเกิดได้จากปัจจัยหลักๆดังนี้
1. กระเบื้องแตก เจอแล้วไม่ยอมแจ้งให้ทำการตัดแตกออกหรือจดไว้ดองไว้ไม่รีบเอามาตัดแตกออกสุดท้ายลีสท์ที่จดหายหรือลืม มานึกออกอีกครั้งตอนที่ผู้สอบเข้าก็สายไปแล้ว ส่งผลให้เกิดสต๊อกดิฟ ข้อนี้เป็นปัญหาอันดับที่1 ของปัญหาสต๊อกดิฟ เกิดจากความไม่ใส่ใจของสาขาและมีผลทำให้ต้องถูกหักตังค์ **วิธีการแก้ไขง่ายๆเพิ่มความใส่ใจมีระเบียบในการตัดแตกสินค้า เจอแตกควรปรับแตกทันที** บริษัทฯมีโควต้าให้ ใช้ให้เป็นประโยชน์
2. การยกสินค้าผิด ยกสลับ ข้อนี้ก็เป็นปัญหาอีกหนึ่งข้อ เกิดจากความไม่รอบครอบในการทำงาน ปิดการขายแล้วไม่รอบิล ใช้ความจำไปจัดของ ตรงนี้เป็นการทำงานที่ผิดวิธี ซึ่งมีโอกาสจะจำผิดได้สูง อีกกรณีนึงลูกค้าเปลี่ยนใจเปลี่ยนจำนวนหรือลวดลายตอนทำการชำระเงิน ตัวอย่าง ทีมขายปิดการขายเรียบร้อยส่งใบจดออเดอร์ให้แอดมิน ลูกค้าซื้อสินค้า 20 ก. รับกลับเอง แล้วพนักงานที่ปิดการขายรีบไปจัดสินค้าให้ลูกค้าเลยโดยที่ไม่รอบิล ลูกค้ามีการเปลี่ยนจำนวน เป็น 18 ก. พนักงานจัดของยกของให้ลูกค้า 20 ก. และไม่มีการทวนบิลกับลูกค้า เครสแบบนี้หายแน่ๆทันที 2 ก. และถ้ายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน ก็จะทำให้สต๊อกดิฟมากขึ้นเรื่อยๆ **วิธีแก้ไขง่ายๆ รอบิลทุกครั้งก่อนไปจัดของ อ่านลวดลายข้างกองทุกครั้งก่อนหยิบสินค้าแต่ละรายการ หลังจากขึ้นของเสร็จแล้วให้ทวนบิลกับลูกค้าทุกครั้งเพื่อรีเช็คความถูกต้อง** เท่านี้เราก็สามารถป้องกันปัญหาสต๊อกดิฟจากข้อนี้ได้
3. การเดินบิล เพื่อทบทวนสต๊อกที่เราขายไปในแต่ละวัน ตรงนี้เป็นการรีเช็คความผิดพลาด โดยใช้เวลาไม่นาน ใช้เวลาช่วงเย็นประมาณหลัง 16.00 น.หรือเวลาที่ว่าง แบ่งหน้าที่ช่วยกันไปทำ วิธีการง่ายๆ ปริ้นรายการขายในวัน ไปเดินนับสต๊อกคงเหลือปัจุบัน เราก็จะรู้แล้วว่าสินค้าที่เหลือตรงหรือไม่ ยกผิดหรือเปล่า ซึ่งจะสามารถรู้ปัญหาและนำมาแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
4. ควรจะมีการรีเช็คสุ่มนับสต๊อกทั้งขนาด หมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ ทุกอาทิตย์หรือตามความเหมาะสม ตัวอย่าง วันอาทิตย์นี้ทำการเช็คสินค้าขนาด 40x40 ให้ปริ้นส์สต๊อกขนาด 40x40 ทั้งหมด แบ่งให้ทีมคลังช่วยกันนับ อาทิตย์ต่อไปอาจจะสุ่มนับขนาด 60x60 และขนาดอื่นหมุนเวียนไป วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถรู้ความผิดปกติของสต๊อกในสาขาได้เป็นอย่างดี รวมถึงการแบ่งหน้าที่การเช็คอุปกรณ์หมุนเวียนกันไป

ทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์กันหมดทั้งระบบการขายหน้าร้านและการบริหารสต๊อก ถ้าสาขาสามารถปฏิบัติได้ตามนี้ เพิ่มความใส่ใจ มีระเบียบวินัยในการดูแลสต๊อก รับรองได้ว่าปัญหาสต๊อกดิฟจะหมดไปและรายได้ของเราก็จะไม่หายไปไหนแน่นอน ทำงานเหนื่อยแล้วก็ต้องรักษารายได้ของตัวเองไว้ให้ดีด้วย
  • การติดตามงาน
หลังจากที่ผจก.มอบหมายงานต่างๆให้กับพนักงานทุกคนแล้ว การติดตามงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เป็นการสอบถามกับพนักงาน การรีเช็คผลงานและความเรียบร้อยในงานที่เราได้มอบหมายให้ ว่าติดปัญหาอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้เราทราบปัญหาต่างๆจากการทำงาน แล้วนำปัญหาต่างๆมาแก้ไขให้การทำงานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยยกตัวอย่างเช่น

1. มอบหมายให้แอดมินเติมสินค้า ผจก.จะสามารถติดตามงานได้โดยการ ให้แอดมินแคปหน้าจอรายการที่สั่งสินค้า จากโปรแกรมDwa มาไว้ในกลุ่มไลน์สาขา โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากการตรวจสอบการสั่งสินค้าเติมแล้ว ทีมคลังยังสามารถทราบอีกด้วยว่ามีการสั่งสินค้าตัวไหนเข้ามาบ้าง ซึ่งทีมคลังจะได้ทำการเตรียมพื้นที่ในการเก็บสินค้าลายดังกล่าวไว้รอได้อีกด้วย
2. มอบหมายให้ทีมคลังจัดคลัง ยุบ รวบ ปรับหน้ากอง การติดตามงานเบื้องต้นคือการให้พนักงานถ่ายรูป พื้นที่บริเวณที่มอบหมายงานให้เพื่อส่งงาน และสอบถามปัญหาในการทำงานหากดูแล้วไม่เรียบร้อย จะต้องไปเดินดูในคลังเพื่อตรวจข้อบกพร่องแล้วเอามาแก้ไข ในการทำงานให้ง่ายและมีประสิทธิภาพ เสร็จได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

ดังนั้นการติดตามงานที่ดี สำคัญอยู่ที่การสร้างคน สร้างงานให้อยู่ในระเบียบ ทำงานเป็นระบบ รวมถึงการพัฒนาความสามารถ เพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานให้เติบโตและก้าวหน้ายิ่งขึ้น
การเก็บเชือกดำหรือสายรัดกระเบื้องคืนโรงงาน

โดยปกติทุกสาขาเราจะกำหนดจุดแขวนเชือกดำกันไว้อยู่แล้ว ควรแขวนไว้ด้านข้างสาขา หรือด้านหลังสาขา ไม่โยนกองหมกไว้ เมื่อพนักงานทำความสะอาดหน้ากองหรือมีการยกกระเบื้อง พนักงานต้องเก็บและรวบรวมเชือกดำที่สภาพดี แล้วนำมาแขวนในจุดรอส่งกลับ เมื่อได้จำนวนเยอะแล้วเราจะมัด (ตามรูป) ฝากรถโรงงานกลับมาใช้งานต่อ ในส่วนเชือกสีเขียวโรงงานไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ให้สาขาทิ้งหรือสามารถขายของเก่าได้ โดยทั่วไปจะมัดรวมกัน มัดละ 50 เส้น

 

 

การเก็บคลังสินค้า, รถยนต์สาขาและอุปกรณ์ต่างๆ
1. ห้ามวางสินค้านอกชายคา ต้องเก็บเข้าคลังให้เรียบร้อย
2. รถยนต์สาขาและรถฟอร์คลิฟท์ ทำความสะอาด/ตรวจสอบสภาพ พร้อมเก็บเข้าคลังในจุดที่ปลอดภัยหรือหน้ากล้องวงจรปิด และเก็บกุญแจไว้ในตู้เซฟทั้งหมด
3. รถเข็นและแฮนด์ลิฟทุกตัว จัดวางเรียงไว้จุดเดียวกันให้เรียบร้อย
4. ตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำประปาภายในสาขาทั้งหมด ก๊อก/วาล์วน้ำปิดให้สนิท โดยเฉพาะตามห้องพักที่ไม่มีคนอยู่
5. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในสาขาทั้งหมด ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า/ปิดสวิทซ์ไฟในห้องพัก และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์/อื่นๆ ภายในออฟฟิศ ยกเว้น ปลั๊กกล้องวงจรปิด
6. ไฟในคลังเปิดเฉพาะที่จำเป็น โดยเฉพาะบริเวณหน้ากล้องวงจรปิด
7. ปิด/ล็อคกุญแจ ประตูรั้วสาขาทางเข้า-ออก, ประตูสำนักงาน/โชว์รูม และห้องพัก ให้เรียบร้อย
8. เคลียร์เก็บถังขยะตามจุดต่างๆ มาวางไว้หน้าสาขาหรือจุดที่รถขยะมาเก็บ
สินค้าเลิกผลิตอยู่ใน Clearance zone ทั้งหมด บางกองอาจจะปนกัน A C ทำอย่างไร
วิธีแก้ไข
  • ถ้าเป็นเศษ กองรวมกัน ปรับสต็อคเป็น C ไม่ต้องเสียเวลาแยกกอง
  • ถ้าเป็นพาเลท จัดแถวแยก A C นำราคามาแปะให้ชัดเจน
  • เตรียมรับมือลูกค้า ถ้าลูกค้าดูราคาที่กอง กับในเครื่องไม่ตรงกัน ถ้าคุยไม่ได้ ขออนุมัติลดราคามาเลย
** ถ้าหากสภาพกล่อง เลิกผลิตเกรด A ดูแล้วไม่สมราคา หรือมีปริมาณน้อย เป็นแผ่น เป็นเศษ ขอปรับเป็น เกรด C หรือ m&m โดยถ่ายรูป มีจำนวน แจ้งความประสงค์ ได้เลย  **
จุดจอดรถของพนักงานสาขา
เพื่อความชัดเจน เรื่องจุดจอดรถของพนักงาน (มอเตอร์ไซค์-รถยนต์) เราจะกำหนดจุดจอดรถให้สาขาได้มีพื้นที่จอดรถที่ถูกต้องและปลอดภัยโดยเราจะคำนึกถึง
  • พื้นที่ด้านหน้าโชว์รูมต้องมองเห็นชัดเจน โล่ง ทางเดินลูกค้าสะดวก ไม่มี รถพนักงานจอดบังทางเดิน เข้าบริเวณโชว์รูมหรือบริเวณทางเข้าแผงโชว์
  • พื้นที่ลงสินค้าและช่องทางเดินพาเลทในคลัง ไม่จอดขวางในพื้นที่ที่อาจเกิดความเสี่ยงในการทำงาน
แบ่งประเภทเป็น
  • คลังขนาดเล็ก จะมีโค้วต้าพนักงานอยู่ 7-8 คน
  • คลังขนาดกลาง - ขนาดใหญ่ จะมีโค้วต้าพนักงานอยู่ 9-15 คน  
สาขาต้องใช้พื้นที่การทำช่องจอดรถมอเตอร์ไซค์ กว้าง 1 x ยาว 2 เมตร ต่อรถ 1 คัน พื้นที่ช่องจอดรถยนต์ กว้าง 2.5 x ยาว 5 เมตร ต่อรถ 1 คัน

โดยจะกำหนดจุดจอดรถจะอยู่ (ตรงข้ามกับโชว์รูม)
  • กำหนดสาขาคลังเล็ก มีพื้นที่จอดรถยนต์ 1 คัน รถมอเตอร์ไซค์ 7 คัน
  • กำหนดสาขาคลังกลาง ถึงคลังใหญ่ ให้มีพื้นที่จอดรถยนต์ 2-3 คัน รถมอเตอร์ไซค์ 10 คัน
  • บางสาขาพื้นที่หน้ากว้างไม่พอ รถยนต์สามารถจอดที่จอดรถลูกค้าได้ รถมอเตอร์ไซค์จอดซ้อนคันได้
ในกรณีคลังไม่เป็นตามลักษณะที่จะต้องจอดตรงข้ามกับโชว์รูมได้
  • คลังขนาดกลาง หรือ คลังขนาดเล็ก มีพื้นที่ด้านหน้าแคบ และมีโคว์ต้าพนักงานงานเกิน 8 คนขึ้นไป บางสาขามีพื้นที่ด้านข้างอาคารหรือใต้ป้ายไฮเวย์ สามารถทำเป็นพื้นที่จอดได้ให้กำหนดจุดนั้นเป็นที่จอด

บางสาขามีพื้นที่จอดบริเวณหน้าห้องพักภายในหลังอาคาร สามารถทำเป็นพื้นที่จอดได้ให้กำหนดจุดนั้นเป็นที่จอด

  • คลังขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นคลังที่สร้างใหม่มีพื้นที่คลังที่ในตัวอาคารว่างเยอะ ให้กำหนดพื้นที่นั่นเป็นที่จอด แต่ต้องไม่ทับซ้อนกับพื้นที่เช่าและพื้นที่คลังนะครับถ้าไม่มั่นใจแจ้งให้ภาคกลุ่มพิจารณา


ในกรณีมีพนักงานเข้าพักที่สาขา หลังเวลาเลิกงานแล้ว รถยนต์ให้เข้ามาจอดในตัวอาคารได้ถ้ามีพื้นที่หรือบริเวณหน้ากล้อง รถมอเตอร์ไซค์ให้เข้ามาจอดในตัวอาคารหน้าห้องพักได้ แต่เมื่อถึงเวลาทำงาน รถต้องไปจอดในจุดจอดรถพนักงานตามปกติ

ทำไมกระเบื้องควรเก็บไว้ในที่ร่ม
หากพลิกหลังกระเบื้องดูทุกแผ่น จะเห็นว่ามีผงขาวๆ คล้ายๆปูนอยู่ ผงนั้นส่วนประกอบหลักคือ "แมกนีเซียม" เราจำเป็นต้องใช้แมกนีเซียมในการรองใต้กระเบื้องเพื่อป้องกันไม่ให้ดินไปติดกับตัว roller ที่ใช้ลำเลียงกระเบื้องในเตา ด้วยความที่แมกนีเซียมมีจุดเดือดอยู่ที่ 1,450 องศา ซึ่งมากกว่าการเผากระเบื้องของเรา มันจึงไม่สลายตัวและยังคงอยู่ทำหน้าที่ป้องกันดินไปติด roller 

** ถ้าเรานำกระเบื้องไปตากฝน และเมื่อแห้งตัว แร่ธาตุและสารเคมีอื่นๆจะมาจับตัวกับผงแมกนีเซียมนี้และอาจจะยึดเกาะติดกับผิวหน้าของกระเบื้องอีกแผ่น คล้ายๆกับหินปูนได้ **

  • วิธีการป้องกัน ที่ผมย้ำอยู่เสมอสำหรับสาขาคือเราควรเก็บกระเบื้องไว้ในที่ร่ม ป้องกันไม่ให้โดนฝน และโดยเฉพาะการส่งกระเบื้องเข้าโครงการในปริมาณมากๆ ที่ยังไม่ได้ใช้งานทันที ต้องเก็บไว้ในที่ร่มเช่นเดียวกับพวกปูน
  • วิธีการแก้ไข หากเกิดการจับตัว ให้ใช้น้ำยาขจัดคราบ เช่น เป็ดขัดออก

เทคนิคการทำงาน

ความรู้ในการทำงานที่ถูกต้อง
ความรู้เรื่องนโยบายองค์ประกอบ 3 อย่าง สำหรับพนักงานทุกคนต้องทราบตามรายละเอียดต่อไปนี้

1. สาขาอยู่ด้วยตัวเอง มีองค์ประกอบด้วย 3 พื้นที่หลักๆ ได้แก่
  1.1. พื้นที่ประชาสัมพันธ์ ได้แก่ แผงโชว์ ป้ายราคา สติ๊กเกอร์ ป้ายชายคา ป้ายกองโจร ชื่อ ราคา รหัสบนสติ๊กเกอร์หรือป้ายราคาต้องถูกต้อง ถ้าสติ๊กเกอร์ฉีกขาดควรเปลี่ยนทันที ป้ายต่างๆ ป้ายแขวน กองโจรชำรุดควรซ่อมให้อยู่ในสภาพดี หรือถ้าอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ให้เอาออก
  1.2. พื้นที่บริการ เช่น ลานจอดรถ โต๊ะเก้าอี้ พื้นที่ในโชว์รูม ลานรับรองลูกค้า จุดชำระเงิน ห้องน้ำ ถังขยะ จุดขึ้นสินค้า พื้นที่เหล่านี้ต้องสะอาดเพื่อพร้อมบริการลูกค้าตลอดเวลา
  1.3. พื้นที่คลังสินค้า เดี๋ยวนี้เรามีเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการเติมสต๊อก โปรแกรม QS Push ทำให้สัดส่วนการเก็บสต๊อกง่ายขึ้น สาขาต้องเก็บสินค้าตามสัดส่วนที่กำหนด เก็บสินค้าให้ได้ตามกลุ่มลูกค้า ส่วนสต๊อกไม่ควรหลวมเกินและแน่นเกินไป การเก็บกระเบื้องภายในคลังต้องแยกขนาดให้เรียบร้อย คลังต้องจัดให้เป็นระเบียบและสะอาดเรียบร้อย

2. พนักงานอยู่ได้ด้วยตัวเอง ประกอบด้วย 6 รู้
  2.1. รู้สำนึกในหน้าที่ พนักงานแต่ละคนมีหน้าที่หลักของตัวเอง ต้องเอาใจมาใส่ในสิ่งที่ตัวเองเป็นที่เราได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด การตรงต่อเวลา เป็นต้น
  2.2. รู้สินค้า พนักงานทุกคนต้องรู้จักผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นอย่างดี เพื่อใช้ในการนำเสนอลูกค้าได้อย่างถูกต้องและยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าอีกด้วย
  2.3. รู้ราคา ทุกคนต้องรู้ราคาสินค้า เพื่อใช้ในการเชียร์ขายและเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการนำเสนอลูกค้า
  2.4. รู้โปรโมชั่น เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทุกคนในสาขาต้องรู้และต้องคอยอัพเดทติดตามตลอด สามารถเอาเป็นอาวุธในการเพิ่มยอดขายได้อีกทาง
  2.5. รู้รักสามัคคี มีความจำเป็นมากในการทำงานตามนโยบายต่างๆเพื่อให้สำเร็จลุล่วง โดยใช้ความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในสาขา ปราศจากความขัดแย้ง
  2.6. รู้จักทำงานให้มีประสิทธิภาพ คือการนำความรู้ที่ได้จากการแนะนำขอผู้บริหารและจากการค้นหาจากสื่อความรู้ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงาน เพื่อนำมาใช้ในการทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

3. เรื่องยอดขาย มี 2 ช่องทาง
  3.1. ขายปลีก มีด้วยกัน 4 ช่องทางดังนี้
    3.1.1. ขายปลีกหน้าร้าน เป็นลูกค้าที่ได้มาจากลูกค้าทั่วไป จากการประชาสัมพันธ์ทางช่องทางต่างๆทั้งทางออนไลน์และทางสื่อโฆษณาป้ายสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมถึงไซต์งาน การทำตลาดช่องทางใหม่บริษัทสถาปนิกและออกแบบ ทั้งนี้พนักงานต้องเน้นงานบริการให้ดีต่อลูกค้า
    3.1.2. ขายปลีก ผรม. เป็นช่องทางที่ทำการสร้างสัมพันธไมตรีที่ดี เพื่อให้เราสามารถติดตามลูกค้ากลุ่มนี้ได้ง่ายขึ้น
    3.1.3. ขายปลีกเพื่อสังคม วัด โรงเรียน หน่วยงานราชการต่างๆ
    3.1.4. ขายปลีกโครงการ
  3.2. ขายส่ง ร้านค้า เป็นช่องทางที่สามารถเพิ่มยอดขายได้เร็วอีกทาง ซึ่งสามารถใช้การสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีเพื่อให้ร้านค้าเป็นพวกของเราและควรพยายามหาร้านค้าใหม่ๆ เพิ่มเพื่อเพิ่มยอดขายให้สาขา
วิธีการค้นหาลูกค้าใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์

วิธีการค้นหาลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ ในเขตพื้นที่ของทุกจังหวัด ซึ่งเป็นโอกาสดี ที่เราจะรีเช็คลูกค้าของสาขาที่ลงทะเบียนกับเราหรือยังไม่ลงทะเบียนกับเรา เพื่อที่เราจะเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เราไม่รู้จักเพิ่ม

การค้นหาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ dataforthai เว็บไซต์นี้จะมีข้อมูลของหลายหน่วยงาน ที่เราจะสามารถเข้าไปค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเราได้

ขั้นตอนการทำงานจาก dataforthai

 จุดประสงค์ในการค้นหาลูกค้าผ่านเว็บไซต์

  • เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ในเขตพื้นที่ ของสาขาที่เรามีอยู่ดูแลให้คลอบคลุม
  • เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มกลาง- บนได้มากขึ้น
  • เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามลูกค้าเก่าที่ยอดขายหายจากระบบ
* เมื่อเราค้นหาข้อมูลแล้ว เราต้องเก็บข้อมูล โดยเราจะใช้ google sheet ในการเก็บข้อมูลและวางแผนการติดตามต่อ*
สิ่งต้องเตรียมในการเข้าหาไซต์งาน
ได้ข้อมูลการติดต่อมาและโทรนัดเรียบร้อยแล้ว การเข้าพบเป็นหน้าที่ของผจก.สาขา
  • แฟ้มน้ำเงิน มีใบราคาอัพเดทให้พร้อมใช้ ใบมอก. และ ใบMIT
  • ชาร์ดตัวอย่างกระเบื้อง ทั้งพอร์ซเลนและเซรามิก หรือที่มี เอามาตรวจเช็คให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน
  • แคตตาล็อก พอร์ซเลน และรวมสินค้าโครงการ (แคตตาล็อกสัตว์ปีกติดไปด้วยเผื่อได้ใช้)
  • นามบัตร ช่องทางการติดต่อ
  • การแต่งกาย สุภาพเรียบร้อย เอาเสื้อใส่ในกางเกง สวมสูททับด้วยจะดีมากเพิ่มความเป็นทางการ

สิ่งที่เราจะต้องเจอ และเตรียมตัวไว้ตอบคำถาม ในการเข้าพบโครงการ

  • รู้คุณสมบัติของตัวสินค้าพอร์ซเลน , AS ทุกขนาดที่นำเสนอ ข้อมูลเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสินค้าพอร์ซเลนกับแกรนิโต้ และเซรามิก เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวสินค้าของเรา **ข้อควรระวัง ห้ามพูดโจมตีสินค้าอื่นเด็ดขาด เพราะจะทำให้เราดูไม่ดี โดยสินค้าขนาดหลักๆที่โครงการต้องการ จะมีขนาด 60x60 , 30x60 , 40x40 รวมถึงบุผนังเป็นต้น
  • ในกรณีที่เป็นการเทียบสเปค เราสามารถใช้สินค้าทุกแบรนของเราที่ผลิตอยู่ ในการเทียบเปลี่ยนแปลงสเปคลวดลายกับของโครงการได้ ส่วนราคาสามารถสอบถามราคาได้จาก ภาค/กลุ่ม หรือพี่เอฟ ได้ทันที (แต่ต้องมีข้อมูลให้ครบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา เช่น ปริมาณที่ใช้ ระยะเวลาในการใช้ ชนกับคู่แข่งแบรนด์อะไร ราคาประมาณเท่าไร )
  • สินค้าที่ทางโครงการจะเลือกการใช้งาน จะต้องมีการใช้ต่อเนื่องระยะยาว 6 เดือนถึง 1 ปี ในการสร้างโครงการนั้นๆ ดังนั้นจึงต้องให้ความเชื่อมั่นกับทางโครงการว่าสินค้าที่ทางโครงการเลือกไว้จะมีสินค้าพร้อมส่งได้ตลอด
  • เรื่องการยืนราคา เราจะดูเงื่อนไขข้างต้น ทั้งปริมาณการใช้ ระยะเวลาในการใช้งาน มาเป็นตัวกำหนดในการยืนราคา เบื้องต้นการยืนราคา 3 เดือน 6 เดือน นานสุด 1 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการ
  • เครดิต เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ เราต้องใช้ข้อมูลมาประเมินเพื่อให้คำตอบกับลูกค้า โดยสาขาต้องแจ้งลูกค้า
               * ตัวอย่างเช่น ขออนุญาตส่งข้อมูลของโครงการ เพื่อพิจารณขออนุมัติเครดิตจากทางบริษัทก่อน แล้วจะรีบแจ้งผลให้ทราบ *
               * หรืออีกกรณีนึง หากโครงการนั้นๆเป็นลูกค้าของร้านค้าเรา และใช้สินค้าของเราให้เราแนะนำรับเครดิตผ่านร้านค้าโดยเรามาดู เรื่องราคาให้กับทางร้านค้าแทน เพื่อให้ร้านค้ารับเครดิตแทนเราได้ *
  • การส่งสินค้าเป็นแบบไหน เรื่องระยะเวลาในการส่ง เราใช้เวลากี่วัน 3-5 วัน และให้เราดูที่หน้างานและสอบถามขนาดรถที่เข้าส่งในโครงการ รถแบบไหนสามารถเข้าส่งได้ ไม่เกินรถ10 ล้อ
    ** ข้อควรระวัง ควรคุยกับโครงการ ให้มีการเช็คสินค้าก่อนสั่งสินค้าล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ เพื่อจะได้เช็คมีสินค้าพร้อมส่งหรือไม่ ติดปัญหาสินค้าไม่มีจะได้มีเวลาแก้ไขทัน **
  • บริการหลังการขายมีอะไรบ้าง เช่น ถ้าสินค้ามีปัญหาจะต้องแจ้งสาขาที่ดูแล พบปัญหาควรหยุดปูเพื่อเข้าตรวจสอบ จะต้องดำเนินการอย่างไร ขั้นตอนเป็นอย่างไร ระยะเวลาในการเครมกี่วัน อธิบายเบื้องต้นให้ลูกค้าทราบ
แบ่งงานอย่างไรให้สร้างยอดขายได้ทุกคน
ความคล่องตัวนั้นจะสร้างขึ้นได้ต้องมีการแบ่งงาน การกำหนดเวลาการทำงานที่ชัดเจน ทุกคนรู้หน้าที่ และการเจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆ นั้น ก็ต้องรู้เศรษฐกิจ จำนวนประชากร การเข้าถึงของพื้นที่นั้นๆ การทำตลาด การเตรียมตัวขาย และการสร้างความพร้อมของสาขาไว้แล้ว ในบทความนี้เราจะมาดูถึงรายละเอียดของงานในแต่ละตำแหน่ง ที่ทำอย่างไรให้งานนั้นสร้างยอดขายให้เราได้

เวลาเราคิดว่าในแต่ละตำแหน่งจะสร้างยอดขายได้อย่างไร ให้คิดว่าในเนื้องานของเค้ามีอะไรบ้าง และขั้นตอนไหนในเนื้องานที่จะสามารถสร้างยอดขาย สร้างสัมพันธไมตรี หรือ สร้างความประทับใจได้ เช่น

พนักงานคลัง
  • สร้างยอดขายได้ ถ้ารู้ว่ากระเบื้องที่กำลังขนขึ้นรถมีกี่ตารางเมตร เป็นกระเบื้องชนิดใด สีอะไร สามารถเชียร์ขายอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ เช่น ปูนกาวที่เหมาะสม, ยาแนวที่สีเข้ากับกระเบื้อง และ คิ้ว บัว ที่ตัดขอบสวยงาม ความแข็งแรงเหมาะกับหน้างาน
  • สร้างสัมพันธไมตรีได้ ด้วยการแนะนำวิธีการปูกระเบื้องที่ถูกต้อง มีปัญหากระเบื้อง ปัญหาในการใช้งาน ให้สอบถามผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โทรศัพท์ ไลน์สาขาสร้างความประทับใจได้
นอกจากในสองข้อแรกแล้ว การทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง มีความเป็นมืออาชีพ มีกริยาคำพูดที่สุภาพ มีรอยยิ้มเสมอ จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างมาก

พนักงานขับรถ
  • สร้างยอดขายได้ จากเดิมที่ขับรถหาไซต์งาน คอยสอดส่องการก่อสร้างระหว่างทาง ถ้ารู้จักพื้นที่ รู้จักคิดนอกกรอบ เช่น มองหาบริษัทรับเหมา สถาปนิก หรือช่องทางใหม่เพิ่มเติม ที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่
  • สร้างสัมพันธไมตรีได้ นอกจากที่เหมือนกับพนักงานคลังแล้ว การปักหมุดสถานที่ต่างๆ และเข้าไปแนะนำตัวเอง แนะนำบริษัทเบื้องต้น ก็จะสร้างสัมพันธไมตรีเพื่อต่อยอดได้ เช่น ตามร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท หรือสถานที่ที่น่าจะมีการปรับปรุงบ่อยๆ
  • สร้างความประทับใจได้ เช่นเดียวกับพนักงานคลัง รวดเร็ว สุภาพ แก้ปัญหาได้ มีรอยยิ้ม หรือให้คิดถึงนโยบายการสร้างความคุ้มค่าเป็นหลัก

ทั้งสองตำแหน่งที่ยกตัวอย่างนั้น เกิดจากการคิดถึงพนักงานว่าในงานของเค้าต้องเจอกับอะไรบ้าง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Employee Journey (อ่านว่า เอมพลอยยี่ เจอร์นี่) และจุดไหนที่จะนำมาสร้างยอดขาย, สร้างสัมพันธไมตรี และสร้างความประทับใจได้บ้าง จุดหลักๆในการคิดมีอยู่แค่ 2 จุด


1. จุดที่ต้องเผชิญหน้ากับลูกค้า หรือบุคคลภายนอก
2. จุดในแต่ละงาน ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ที่สามารถใส่ความรู้เพิ่มเติม หรือมองสิ่งที่จะสร้างยอดขายเพิ่มเติมได้ เช่นในตัวอย่างของพนักงานขับรถ ที่ไม่ได้มองหาแค่ไซต์งาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy